วันอังคารที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2555

หลวงพ่อพระยืน
วัดพุทธมงคล วัดสุวรรณาวาส
    
       หลวงพ่อพระยืน (วัดสุวรรณาวาส) หลวงพ่อพระยืน (วัดพุทธมงคล)ทั้งสองพระองค์ทรงอานุภาพ ศักดิ์สิทธิ์ เป็นปูชนียวัตถุ ที่ควรแก่กาสักการะเคารพบูชายิ่ง ทั้งสององค์นี้ชาวบ้านนิยมเรียกกัน ว่า" หลวงพ่อพระยืน "เป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งเป็นมิ่งขวัญเป็นที่พึ่งพาทางใจของชาวพุทธ ทุกถ้วนหน้าโดยเฉพาะ ชาวกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม และเป็นที่เคารพบูชาของพุทธศาสนิกชนทั่วไปพระพุทธรูปทั้งสององค์นี้ เป็นปรางสรงน้ำ มีความสูงตลอดองค์ประมาณ 8 ศอก กว้าง 2 ศอก พระเนตรและเนื้อองค์พระ สร้างด้วยศิลาแลงอย่างดี เป็นพระพุทธรูปที่นิยมสร้างในสมัยขอมก่อนยุคสุโขทัย
        หลวงพ่อพระยืนทั้งสอง ผินพระพักตร์ไปทางทิศทักษิณ หลวงพ่อพระยืนทั้งสององค์อยู่ห่างกันประมาณ 1,250 เมตร เป็นปูชนียวัตถุเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองตามตำนานหรือประวัติที่หาหลักฐานยืนยันได้จากใบเสมาที่ฝังอยู่ใกล้องค์พระ เขียนเป็นภาษาขอม  ว่าสร้างปีฮวดสง่า พุทธศักราช 1399 ปัจจุบันยังมีตัวอักษรปรากฏที่ใบเสมาแต่เลอะเลือนมากแล้ว
        ตามคำบอกเล่าสืบทอดกันมามีผู้เฒ่าผู้แก่บอกว่าได้รับฟังจากบรรพบุรุษเล่าว่าเดิมที่ดินแถบนี้ขอมได้ครอบครองมาก่อน ต่อมาทางนครเวียงจันทร์มีอำนาจเข้าครอบครองจากขอม มีเจ้าผู้ครอบครองโดยอิสระ เรียกกันว่า “เมืองกันทาง” หรือ “เมืองคันธาธิราช”
ได้เคยมีการขุดค้นบริเวณพื้นที่แหล่งโบราณคดีบ้านสระ ใกล้กับวัดพุทธมงคล ได้พบโบราณวัตถุหลายรายการ (ปัจจุบันเก็บรักษาไว้ในห้องคลังพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติขอนแก่น) โดยมีตัวอย่างดังนี้

           หินดุทำด้วยดินเผามีรูปทรงคล้ายดอกเห็น โดยปลายด้านหนึ่งทำเป็นทรงกลมโค้งบาน ปลายตัดเรียบ ส่วนด้ามจับเป็นทรงโค้งมน มีขนาดยาว 7 เซนติเมตร เส้นผ่าศูนย์กลางด้านปลาย 5 เซนติเมตร โบราณวัตถุประเภทหินดุนั้นน่าจะใช้ประโยชน์เกี่ยวเนื่องกับการทำภาชนะดินเผา
           ภาชนะดินเผาขนาดเล็กทำจากดินเผามีรูปทรงเป็นถ้วยขนาดเล็ก ก้นกลม ด้านบนที่ส่วนของสันขอบปากขีดเป็นลายเส้นขวาง และมีเดือยแหลมขนาดเล็กปั้นติดประดับอยู่ภาชนะดินเผาชิ้นนี้มีความสูง 4 เซนติเมตร เส้นผ่าศูนย์กลางปากกวาง 5.5 เซนติเมตร
           เบ้าดินเผาสำหรับหล่อโลหะทำจากดินเผา ทรงคล้ายกระบวย โดยปลายด้านหนึ่งทำเป็นแอ่งโค้งมีพวยยื้น ส่วนอีกด้านเป็นด้ามจับทรงกลม(ชำรุด)เบ้าดินเผาชิ้นนี้มีความยาว 12 เซนติเมตร สูง 5 เซนติเมตร วัตถุประสงค์ของเบ้าดินเผานี้น่าจะใช้ประโยชน์สำหรับการหล่อโลหะ 


Read more:http://www.taksilanakhon.com/wizContent.asp?wizConID=74&txtmMenu_ID=52#ixzz1r2l4EgQW


Read more:http://www.taksilanakhon.com/wizContent.asp?wizConID=74&txtmMenu_ID=52#ixzz1r2koB8Nj

6 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณนะคะที่แบ่งปันข้อมูล (:

    ตอบลบ
  2. เป็นเกร็ดความรู้มากเลยครับ

    ตอบลบ
  3. สารคามน่าอยู่จังครับ

    ตอบลบ
  4. คนสร้างดูความมีวามรู้เกี่ยวกับเมืองมหาสารคามมากเลยค่ะ >,,<

    ตอบลบ